ความผันผวนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกามีการปรับตัวร่วงลงอย่างต่อเนื่องในเจ็ดวันที่ผ่านมาจากระดับ 1.95% ร่วงลงมาถึง 1.73% สะท้อนให้เห็นว่ายังคงมีความกังวลในการลงทุนของตลาดหุ้นไม่ว่าจะเป็นทั้งตลาดดาวโจนส์และ S&P 500 ในหลายวันที่ผ่านมา
ไม่ว่าจะเป็นทั้งปัจจัยหนุนจากสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนหรือไม่กระทั่งการเติบโตของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาที่ยังมีการเติบโตในระยะสั้นเท่านั้นยังไม่เกิดถึงความเติบโตในระยะยาวเนื่องจากว่าตลาดหุ้นยังได้รับแรงหนุนจาก การผันผวนของสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนที่ยังคงมีการผันผวนและยังคงมีการเจรจากันอย่างต่อเนื่องรวมทั้งความไม่ชัดเจนของทั้งสองฝ่าย
ในกรณีของความไม่ชัดเจนทั้งสองฝ่ายยังส่งผลกระทบถึงสหรัฐอาจจะมีการแทรกแซงฮ่องกงในการที่จะยุติการเผชิญหน้ากับรัฐบาลฮ่องกงและประชาชนซึ่งแน่นอนว่าประเทศจีนยังไม่มีการออกมาตอบโต้อย่างไรแต่ มีการส่งสัญญาณออกมาแล้วว่าประเทศจีนรู้สึกไม่ค่อยชอบใจนักที่สหรัฐอเมริกาจะเข้ามาแทรกแซงการประท้วงในฮ่องกง
โดยการไม่ชอบใจดังกล่าวส่งผลทำให้ทั้งสหรัฐและจีนใช้ประเด็นสงครามการค้ามาเกี่ยวข้องกับการที่สหรัฐเข้าแทรกแซงฮ่องกงโดยมีการส่งสัญญาณทั้งสองฝ่ายว่าควรที่จะมีการยุติการประท้วงในฮ่องกงแต่ประเทศจีนยังต้องการและเรียกร้องให้สหรัฐไม่ควรที่จะแทรกแซงฮ่องกง
ปัจจัยหนุนดังกล่าวเป็นปัจจัยที่นักลงทุนตลาดเงินและนักลงทุนต่างยังมีข้อกังขาว่าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนที่มีการส่งสัญญาณออกมาในการเจรจาเฟสที่หนึ่งว่าจะมีแนวโน้มที่จะออกมาในทิศทางเชิงบวก ก็ยังเป็นกังวลในทั้งสองเหตุการณ์ซึ่งจะยังมีการส่งสัญญาณออกมาต่อเนื่องไปเรื่อยๆ
ส่งผลกระทบทำให้ตลาดหุ้นดาวโจนส์และตลาดหุ้นไม่สามารถขึ้นอย่างต่อเนื่องได้และมีความผันผวนมีการปรับตัวร่วงลงในระยะสั้นเช่นเดียวกันกดดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกามีการปรับตัวร่วงลงดังกล่าว
โดยในตอนนี้อยู่ในระดับ 1.75% มีการขยับขึ้นเล็กน้อยอย่างไรก็ตามในส่วนของการกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่มีการปรับตัวร่วงลงทั้งสามปีสองปีห้าปีและ 10 ปีที่มีการปรับตัวร่วงลงนั้นส่งผลกระทบให้ทิศทางทองคำมีการขยับตัวขึ้น
โดยในเจ็ดวันที่ผ่านมาทองคำขยับสูงขึ้นในระดับจาก 1452 ไปยัง 1475 ดอลล่าร์ต่อออนซ์ขยับขึ้นถึง 1.75% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนตลาดเงินและนักลงทุนยังคงมีความกังวลในการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงและคอยจับตามองเกี่ยวเนื่องกับสงครามทางการค้าอย่างใกล้ชิด
โดยคาดการณ์ว่าถ้าเกิดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังไม่มีการส่งสัญญาณในการเจรจาทางการค้าและมีการลงนามในเฟสที่หนึ่งอาจจะส่งผลทำให้ทิศทางทองคำขยับตัวสูงขึ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอาจจะมีการปรับตัวร่วงลงอย่างต่อเนื่องทั้งนี้ทั้งนั้นสัญญาณต่างๆต้องรอมาจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งจีนและสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ในหลายสำนักยังคงเชื่อว่าการเจรจาทางการค้าในครั้งนี้จะต้องมีการลงนามในเฟสที่หนึ่งแน่นอนซึ่งในระหว่างการลงนามในเฟสที่หนึ่งนั้นการเหวี่ยงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐหรือแม้กระทั่งสินทรัพย์เสี่ยงและสินทรัพย์ปลอดภัยอาจจะมีความผันผวนในช่วงนี้
โดยถ้าเกิดว่าการเจรจาสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนยังคงยืดเยื้อและยังคงมีการส่งสัญญาณออกมาในเชิงลบอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้หรือสัปดาห์นี้อาจจะส่งผลกระทบให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลร่วงลงไปสู่ในระดับ 1.68% โดยทั้งนี้ทั้งนั้นต้องติดตามปัจจัยหนุนอื่นต่อเนื่อง
ดังนั้นการที่จะมีการจับตาดูอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมักจะมีความผันผวนตรงกันข้ามกับสินทรัพย์เสี่ยงเสมอดังนั้นอาจจะประเมินได้ว่าทองคำอาจจะขยับไปในทิศทางไหนอย่างไรจึงควรติดตามในสัปดาห์นี้